วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ทกขสมุทัย - กิเลส 10

กิเลส คือ สิ่งที่ทำให้ใจเศร้าหมอง ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ กิเลสมี 10 ประการ ได้แก่ โลภกิเลส โทสกิเลส โมหกิเลส มานกิเลส ทิฏฐิกิเลส วิจิกิจฉากิเลส ถีนกิเลส อุทธัจจกิเลส อหิริกกิเลส และอโนตตัปปกิเลส

1 . โลภกิเลส

โลภกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะยินดีชอบใจในอารมณ์ ความกำหนัด ความคล้อยตามอารมณ์ ความยินดี ความเพลิดเพลิน ความหมกมุ่น ความใคร่ ความข้องอยู่ ความจมอยู่ ความหวังรูป ความหวังเสียง ความหวังกลิ่น ความหวังรส ความหวังสัมผัส ความหวังลาภ ความหวังทรัพย์ ความหวังบุตร ความหวังชีวิต ความใคร่ในอารมณ์ดีๆ ความกำหนัดในฐานะอันไม่ควร ความโลภเกินพอดี ความติดใจ กิริยาที่ติดใจความปรารถนา ความกระหยิ่มใจ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ตัณหาในรูปภพ และตัณหาในอรูปภพ

2 . โทสกิเลส

โทสกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะไม่ชอบใจในอารมณ์ ความขัดเคือง ความกระทบกระทั่ง ความแค้น ความเคือง ความขุ่นเคือง ความพลุ่งพล่าน ความคิดประทุษร้าย ความมุ่งคิดประทุษร้าย ความขุ่นจิต โกรธ กิริยาที่โกรธ ความโกรธ การคิดปองร้าย กิริยาที่คิดปองร้าย ความคิดปองร้าย ความไม่แช่มชื่นแห่งจิต มีอาฆาตวัตถุ หรือมูลเหตุให้เกิดความพยาบาท 10 ประการ ดังต่อไปนี้

1) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้ได้ทำความเสื่อมเสียให้แก่เรามาแล้ว”
2) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้กำลังทำความเสื่อมเสียให้แก่เรา”
3) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้จักทำความเสื่อมเสียให้แก่เรา”
4) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้ได้ทำความเสื่อมเสียให้แก่คนที่รักที่พอใจของเรามาแล้ว”
5) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้กำลังทำความเสื่อมเสียให้แก่คนที่รักที่พอใจของเรา”
6) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้จักทำความเสื่อมเสียให้แก่คนที่รักที่พอใจของเรา”
7) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้ได้ทำประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่พอใจของเรามาแล้ว”
8) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้กำลังทำประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่พอใจของเรา”
9) . ความอาฆาตเกิดขึ้นด้วยคิดว่า “ผู้นี้จักทำประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่พอใจของเรา”
10) . ความอาฆาตเกิดขึ้นในฐานะอันไม่สมควร เช่น เดินสะดุดตอไม้และเกิดความโกรธขึ้น

3 . โมหกิเลส

โมหกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะความมัวเมาลุ่มหลง ปราศจากสติสัมปชัญญะ ความไม่รู้ในทุกข์ ความไม่รู้ในทุกขสมุทัย ความไม่รู้ในทุกขนิโรธ ความไม่รู้ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ความไม่รู้ในส่วนอดีต ความไม่รู้ในส่วนอนาคต ความไม่รู้ทั้งในส่วนอดีตและส่วนอนาคต ความไม่รู้ในปฏิจจสมุปปาทธรรมว่า " เพราะธรรมนี้เป็นปัจจัย ธรรมนี้จึงเกิดขึ้น " ความไม่รู้ ความไม่เห็น ความไม่ตรัสรู้ ความไม่รู้โดยสมควร ความไม่รู้ตามความเป็นจริง ความไม่แทงตลอด ความไม่ถือเอาโดยถูกต้อง ความไม่หยั่งลงโดยรอบคอบ ความไม่พินิจ การไม่พิจารณา การไม่ทำให้ประจักษ์ ความทรามปัญญา ความโง่เขลา ความ
ไม่รู้ชัด ความหลง ความลุ่มหลง ความหลงใหล ทั้งหมดนี้แหละคือ " โมหกิเลส "

4 . มานกิเลส

มานกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อนเพราะความทะนงตน การถือตัว การยกตน การเทิดตน การเชิดชูตนดุจธง การยกจิตขึ้น โดยมานกิเลสนั้น สามารถจำแนกได้เป็น 9 ประการ ดังต่อไปนี้

1) . ตัวประเสริฐกว่าเขา ถือตัวว่าประเสริฐกว่าเขา
2) . ตัวประเสริฐกว่าเขา ถือตัวว่าเสมอเขา
3) . ตัวประเสริฐกว่าเขา ถือตัวว่าเลวกว่าเขา
4) . ตัวเสมอเขา ถือตัวว่าประเสริฐกว่าเขา
5) . ตัวเสมอเขา ถือตัวว่าเสมอเขา
6) . ตัวเสมอเขา ถือตัวว่าเลวกว่าเขา
7) . ตัวเลวกว่าเขา ถือตัวว่าประเสริฐกว่าเขา
8) . ตัวเลวกว่าเขา ถือตัวว่าเสมอเขา
9) . ตัวเลวกว่าเขา ถือตัวว่าเลวกว่าเขา

5 . ทิฏฐิกิเลส

ทิฏฐิกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะความเห็นผิดจากเหตุผลตามความเป็นจริง เช่น ความเห็นว่าโลกเที่ยง ว่าโลกไม่เที่ยง ว่าโลกมีที่สุด ว่าโลกไม่มีที่สุด ความผันแปรแห่งทิฏฐิ ความยึดถือผิด ความตั้งมั่นผิด ภาวะที่ผิด ลัทธิอันเป็นบ่อเกิดแห่งความพินาศ และเป็นการยึดถือโดยความวิปลาส

6 . วิจิกิจฉากิเลส

วิจิกิจฉากิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะความสงสัยลังเลใจ หรือความเคลือบแคลงใจในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขาบท ในกาลอดีต ในกาลอนาคต ทั้งในกาลอดีตและกาลอนาคต ในปฏิจจสมุปปาทธรรมว่า " เพราะธรรมนี้เป็นปัจจัยธรรมนี้จึงเกิดขึ้น " การเคลือบแคลง กิริยาที่เคลือบแคลง ความเคลือบแคลง ความคิดเห็นไปต่างๆนานา ความตัดสินอารมณ์ไม่ได้ ความเห็นเป็นสองแง่ ความเห็นเหมือนทางสองแพร่ง ความสงสัย ความไม่สามารถจะถือเอาโดยส่วนเดียวได้ ความคิดส่ายไป ความคิดพร่าไป และความไม่สามารถจะหยั่งลงถือเอาเป็นยุติ

7 . ถีนกิเลส

ถีนกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะหดหู่ท้อถอยจากความเพียร ความไม่สมประกอบแห่งจิต ความไม่ควรแก่การงานแห่งจิต ความท้อแท้ ความถดถอย ความหดหู่ อาการที่หดหู่ ภาวะที่หดหู่ ความซบเซา อาการที่ซบเซา ภาวะที่ซบเซาแห่งจิต

8 . อุทธัจจกิเลส

อุทธัจจกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะเกิดฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ความไม่สงบแห่งจิต ความวุ่นวายใจ ความพล่านแห่งจิต

9 . อหิริกกิเลส

อหิริกกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะไม่ละอายในการกระทำบาป กิริยาที่ไม่ละอายต่อการประพฤติทุจริต อันเป็นสิ่งที่น่าละอาย กิริยาที่ไม่ละอายต่อการประกอบอกุศลกรรมทั้งหลาย อันเป็นสิ่งที่น่าละอาย

10 . อโนตตัปปกิเลส

อโนตตัปปกิเลส คือ กิเลสที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเร่าร้อน เพราะไม่เกรงกลัวผลของการกระทำบาป กิริยาที่ไม่เกรงกลัวต่อผลของการประพฤติทุจริต อันเป็นสิ่งที่น่าเกรงกลัว กิริยาที่ไม่เกรงกลัวต่อผลของการประกอบอกุศลกรรมทั้งหลาย อันเป็นสิ่งที่น่าเกรงกลัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น